ลิเวอร์พูล แพ้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก นัดอุ่นเครื่อง

ประเด็นที่ทำให้ ลิเวอร์พูล แพ้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก นัดอุ่นเครื่อง

แฟนบอล “หงส์แดง” คงผิดหวังพอสมควรที่เห็น ลิเวอร์พูล อุ่นเครื่องแพ้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 0-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้ “เดอะ เร้ดส์” ครองเกมและสร้างโอกาสได้ดีแต่ขาดการจบสกอร์ที่เฉียบคม ขณะที่ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายตอนที่บรรดาตัวหลักลงสนาม พวกเขาเล่นเกมเพรสซิ่งได้อย่างโดดเด่น, ครองบอลได้ตลอด และอันตรายสุดๆ อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการทำประตูยังไม่สมบูรณ์ ขณะที่เจ้าบ้านนักเตะที่ฟอร์มเด่นสุดๆ ก็คือ เบนจามิน เซสโก้ ซึ่งเต็มไปด้วยความว่องไวและเฉียบคม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แมนฯ ยูไนเต็ด, ดอร์ทมุนด์ และ บาเยิร์น อยากได้ตัวไปเสริมทัพ

1. สามแนวรุกรุ่นใหม่ยังประสานงานไม่ลงตัว

ถือว่าพลิกโผจริงๆ สำหรับ 3 แนวรุกตัวจริงในครึ่งแรก เพราะ คล็อปป์ ตัดสินใจใช้งาน ดาร์วิน นูนเญซ ร่วมกับ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ซึ่งในช่วงต้นเกมถือว่าผลงานหวือหวาจริงๆ สร้างโอกาสได้ดีแต่จบสกอร์ไม่ค่อยได้ ในส่วนของ หัวหอกชาวอุรุกวัย ยังดูเก้ๆ กังๆ ในจังหวะการจับบอล

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือสัญชาตญาณการจบสกอร์ที่เด็ดขาดมากขึ้น ขณะที่ “เจ้าจุก” ต้องบอกว่าเรื่องการสอยเท้า ความเร็วความจี๊ดจ๊าดโดดเด่นมากๆ แต่ขาดความแม่นยำในการผ่านบอลและจบสกอร์ไปนิดนึง ด้าน คาร์วัลโญ่ ทักษะเกินวัยแต่ติดเรื่องสภาพร่างกายยังไม่แกร่ง หลายครั้งที่พาบอลไปดีแต่ต้องชะงักเมื่อเจอคู่แข่งเบียดหรือปะทะ กระนั้นผลงานโดยรวมของทั้ง 3 คนยังถือว่ามีอนาคตกับทีมในฤดูกาลใหม่

2. ขุมกำลังสำรองยังต้องปรับอีกเยอะ

11 ตัวจริงในแมตช์นี้เห็นได้ชัดว่ามีหลายคนคงเป็นเพียงกำลังสำรองของ “หงส์แดง” เพราะจากผลงานกว่า 60 นาทีพวกเขาไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย ไล่ตั้งแต่แนวรับ โจ โกเมซ ทำผิดพลาดหลายครั้งจนทำให้ทีมเกือบเสียประตู

ขณะที่แดนกลาง สเตฟาน เบจเซติช ซึ่งโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมกับ แอร์เบ ไลป์ซิก แต่แมตช์นี้ผลงานค่อนข้างเงียบ ส่วน ไอแซค มาบาย่า ที่ดูดีในเรื่องจังหวะการกระชากบอลแต่ยังต้องแก้ไขเรื่องการผ่านบอลและการตัดสินใจ ขณะที่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กับ นาบี เกอิต้า ผลงานสอบผ่าน และยังมีลุ้นที่จะได้เบียดตัวจริง

ลิเวอร์พูล แพ้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก นัดอุ่นเครื่อง

3. เกมเพรสซิ่งช่วงครึ่งชั่วโมงที่สุดยอด

หลังจากที่ คล็อปป์ ตัดสินใจส่งผู้เล่นตัวหลักลงสนามยกแผง ผลงานของ ลิเวอร์พูล โดดเด่นทันทีโดยเฉพาะจังหวะการเพรสซิ่งเกมใส่แข้งซัลซ์บวร์ก ซึ่งทำให้เจ้าบ้านแทบโงหัวไม่ขึ้น นอกจากนี้จังหวะการทำชิ่ง และผ่านบอลของ “หงส์แดง” มีความแม่นยำ และอันตรายอย่างมาก

ซึ่งมีหลายครั้งที่พวกเขาสามารถผ่านบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่น่าเสียดายที่จังหวะสุดท้ายยังขาดความเฉียบคมไปหน่อย อย่างไรก็ตามเกมในช่วง 30 นาทีสุดท้ายคงทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” ได้เห็นแล้วว่า 11 ตัวจริงของทีมในซีซั่น 2022/2023 จะมีใครบ้าง

4. หอกเป้าหมายแมนยูเฉิดฉาย

สำหรับผู้เล่นซัลซ์บวร์กที่โดดเด่นมากๆ ในเกมนี้คงหนีไม่พ้น เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าซึ่งเป็นเป้าหมายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนักเตะโชว์ฟอร์มได้สุดยอด ทั้งการประสานงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีม สร้างโอกาสในการทำประตู และการจบสกอร์ที่เฉียบคม แถมยังมีชอตพลิกบอลหลอกอย่างเหนือชั้นในช่วงกลางครึ่งแรกด้วย ฟอร์มของ เซสโก้ ซึ่งได้รับฉายาว่า “นิว เออร์ลิง ฮาแลนด์” ยอดเยี่ยมมากๆ และหากเขาไม่ถูกเปลี่ยนตัวออกตอนพักครึ่ง คาดว่า ซัลซ์บวร์ก น่าจะอันตรายมากกว่านี้ในช่วง 45 นาทีหลัง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้ง แมนฯ ยูฯ, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ บาเยิร์น มิวนิค อยากได้นักเตะไปร่วมทัพ

5. ความพร้อมปะทะแมนฯซิตี้

คาดว่า 11 ตัวจริงของ ลิเวอร์พูล ในแมตช์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ น่าจะเป็นแข้งที่ลงช่วง 30 นาทีสุดท้ายในแมตช์นี้ โดยแนวรุกคงจะเปลี่ยนจาก โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็น ดาวิน นูนเญซ และตำแหน่งโกลจาก อาเดรียน เป็น อลีสซง เบ็คเกอร์ ในกรณีที่ “พ่อหมี” ฟิตสมบูรณ์ แน่นอนว่าตอนนี้ “เดอะ เร้ดส์” พร้อมแล้วในการจะเจอกับบททดสอบของจริงในเกมกับ “เรือใบสีฟ้า” และสาวก “เดอะ ค็อป” คงจะได้เห็นทีเด็ดของทีมมากกว่าในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่ผ่านมาแน่นอน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ skpce.com

ufa slot

Releated